สถานที่ท่องเที่ยว
ม่อนเสาหินพิศวง(ม่อนหินกอง)
ในบริเวณนี้เมื่อประมาณ 5 – 6 ล้านปีมาแล้ว เกิดการประทุของภูเขาไฟ พาเอาหินหนืดจากใต้เปลือกโลกไหลประทุขึ้นมาเป็นลาวา ( lava ) ของหินบะซอลด์ปกคลุมพื้นผิวบริเวณนี้แล้วเกิดการเย็นตัวอย่างรวดเร็วมีผลให้ ส่วนของหินบะซอลด์ที่อยู่ตอนบนเกิดแรงดึงทุกทิศทุกทางจากการหดตัวในขณะที่ เย็นตัวลงทำให้เกิดรอยแตกรอยแยกที่ตั้งฉากกับพื้นผิวจึงได้ลักษณะหินแตกเป็น หลาย ๆ เหลี่ยมคล้ายเสา ( columnar ) ตั้งตรงหรือล้มระเนระนาดบ้างอยู่ในบริเวณนี้นั่นเอง ม่อนหินกองนี้จึงเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา มิได้เป็นสิ่งอัศจรรย์ มีอิทธิฤทธิ์ หรือปาฏิหาริย์ สิ่งที่เกิดมาเป็นธรรมชาตินี้ เป็นสมบัติจากธรรมชาติที่ให้อนุชนได้เรียนรู้ จึงไม่สมควรที่จะรุกล้ำ หักโค่น ให้เป็นสมบัติส่วนตัว หรือนำไปกราบไหว้บูชาแต่อย่างใด
การค้นพบในตำบลนาพูน
เมื่อประมาณ 50 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีคนมาจากสวรรคโลกเดินทางมาหา นายกิ โปด้วง ให้นำทางไปที่ม่อนหินกอง อ้างว่ามีรายแทง และว่าพวกมอญ พวกเงี้ยว เอาของดีมาซ่อนไว้ที่ม่อนหินกองแล้วเอาหินทับไว้ และนายกิ โปด้วง จึงได้นำทางนายเสริญ และนายน้อย ไปขุดหารายแทงนั้น พอขุดได้ 2 วัน ก็มีงูยาวประมาณ 1 เมตร มานอนบริเวณนั้น และการขุดหารายแทงนั้นทั้งนายเสริญ และนายน้อย ได้แต่สากครก 1 ชิ้นเท่านั้น และมีคำบอกเล่าว่าถ้าบุคคลใดเอาของอะไรก็ตามที่อยู่ในนั้นออกมา เชื่อว่าจะมีอันเป็นไป และพอขุดได้ไม่กี่วัน นายเสริญก็ป่วย นายน้อยจึงพานายเสริญกลับบ้านพอกลับไปถึงบ้านนายเสริญก็ตาย และมีชาวบ้านบางรายเล่าว่าพอถึงวันพระ จะได้ยินเสียงก้องเสียงกังวาลย์ดังขึ้นบริเวณม่อนหินกอง และมีชาวบ้านบางคนเคยเห็นลูกแก้วลอยขึ้นบริเวณม่อนหินกอง
ลักษณะของม่อนหินกอง มีกองหินเรียงรายกันอยู่คล้ายกับเจดี มีอยู่ถึง 7 – 8 กอง มีรูปเป็นเหลี่ยม 5 เหลี่ยม และ 6 เหลี่ยม ซึ่งมีทั้งหมด 3 กองโดยมีความยาวและความสูงดังต่อไปนี้
กองที่ 1 มีความยาวประมาณ 10 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร
กองที่ 2 มีความยาวประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร
กองที่ 3 มีความยาวประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 5 เมตร
ม่อนหินกองตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของ บ้านนาพูนพัฒนา หมู่ที่ 10 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร
ปัจจุบันบริเวณม่อนหินกองเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ และมีลอยขุดเป็นหลุมเป็นบ่อซึ่งมาจากการขุดของ
นายเสริญ และนายน้อย มาจนถึงทุกวันนี้
ความน่าสนใจ และความแปลกใหม่
เป็นสถานที่ชาวบ้านเคารพนับถือ และมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ปี 2553
นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.แพร่ ได้นำชาวบ้านและหน่วยงานราชการทุกส่วนปรับปรุงให้เป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่







